ในตอนนี้ เป็นเนื้อหาที่มาในทุกนิบาตส่วนกลาง (ทุติยปัณณาสก์) ใน สนิมิตตวรรค หมวดว่าด้วยเหตุแห่งบาปอกุศล 10 อย่าง และ ธัมมวรรค หมวดว่าด้วยธรรมที่มี 2 อย่างที่มาด้วยกัน ใน 11 ข้อ
ในวรรคที่ 3 นี้ กล่าวถึงเหตุของความชั่ว ที่ถ้ามีเหตุ 10 อย่างต่อไปนี้ มันก็มีความชั่วเกิดขึ้น แต่ถ้าไม่มีเหตุเหล่านั้น บาปอกุศลธรรมก็ไม่มี จึงเปรียบเทียบส่วนต่างโดยยกเอาเรื่องของอกุศลธรรมและเหตุขึ้นมา ที่มีการเกิดแล้วก็ดับ ได้แก่ ธรรมที่เป็นบาปอกุศล จะต้องมี นิมิต (เครื่องหมายบ่งบอก อาศัยเป็นเหตุ) / นิทาน (เรื่องที่มาก่อน) / เหตุ (สิ่งที่เกิดก่อน) / สังขาร (การปรุงแต่งชนิดที่เป็นอกุศล เป็นทุจริต) / ปัจจัย (เป็นเงื่อนไขกันมา เป็นสมการตัวแปร) / รูป (ผัสสะ) / เวทนา / สัญญา / วิญญาณ / สังขตธรรม (ธรรมที่มีการปรุงแต่ง คือ กองทุกข์ทั้งหมด) จึงเกิดขึ้น ถ้าไม่มีเหตุ ก็ไม่เกิดขึ้น เพราะละเหตุนั้นเสียได้อย่างนี้ ธรรมที่เป็นบาปอกุศลเหล่านั้นจึงไม่มี
"ถ้าทุกข์อยู่ตรงไหน ความดับทุกข์ความพ้นทุกข์ก็มีอยู่ตรงนั้น ถ้ามีปัญหาอยู่ตรงไหน ทางแก้ปัญหามันก็อยู่ตรงนั้น ถ้าคุณยึดถือตรงไหน จะละความยึดถือได้ ก็ต้องละ ณ ที่ตรงนั้น"
ในวรรคที่ 4 เป็นหมวดที่ว่าด้วยธรรม 2 อย่าง ที่มาด้วยกัน คือ กล่าวถึงอย่างหนึ่ง ก็ต้องกล่าวอีกอย่างหนึ่งขึ้นมาด้วย ใน 11 ข้อนี้ โดยมีทั้งส่วนเหมือนส่วนต่างยกขึ้นมาเปรียบเทียบกัน ได้แก่ เจโตวิมุตติ (ความหลุดพ้นแห่งจิต) | ปัญญาวิมุตติ (ความหลุดพ้นด้วยปัญญา) / ความเพียร | ความไม่ฟุ้งซ่าน / นาม | รูป / วิชชา (ความรู้แจ้งแทงตลอด) | วิมุตติ (ความหลุดพ้น) / ภวทิฏฐิ (ความเห็นความเข้าใจในความที่มีอยู่ เป็นอยู่ มีสภาวะ มีภพขึ้นมา) | วิภวทิฏฐิ (ความเห็นความเข้าใจในความที่ไม่มีอยู่ ไม่เป็นอยู่ โลกนี้โลกหน้าไม่มี ปฏิเสธหมด) / อหิริ (ความไม่ละอายต่อบาป) | อโนตตัปปะ (ความไม่กลัวต่อบาป) / หิริ (ความละอายต่อบาป) | โอตตัปปะ (ความกลัวต่อบาป) / ความเป็นผู้ว่ายาก (บอกสอนยาก) | ความมีปาปมิตร (มีเพื่อนชั่ว) / ความเป็นผู้ว่าง่าย (บอกสอนง่าย) | ความมีกัลยาณมิตร (มีมิตรดี) / ความเป็นผู้ฉลาดในธาตุ | ในมนสิการ / ความเป็นผู้ฉลาดในอาบัติ | ในการออกจากอาบัติ
"หิริโอตตัปปะ ถ้าไม่มีแล้ว ก็ไม่มีใครที่จะได้อะไรจากใคร…แต่ถ้ามีแล้ว จะมีการสำรวมอินทรีย์ พอมีการสำรวมอินทรีย์ จะทำให้เกิดสติ พอมีสติ ก็จะทำให้เกิดสัมปชัญญะ พอมีสัมปชัญญะก็จะทำให้เกิดสติปัฏฐาน 4 ได้ มีสติปัฏฐาน 4 จะทำให้เกิดโพชฌงค์ 7 ได้ มีโพชฌงค์ 7 จะทำให้เกิดวิชชาวิมุตติได้ จะไล่เรียงกันไปเป็นขั้น ๆ แบบนี้"

Time index
[04:14] สนิมิตตวรรค ว่าด้วยเหตุแห่งบาปอกุศล | [78] นิมิต
[10:02] [79] นิทาน | [80] เหตุ
[14:09] [81] สังขาร | [82] ปัจจัย
[17:09] [83] รูป | [84] เวทนา
[19:03] [85] สัญญา [86-87] วิญญาณ สังขตธรรม | ทุกข์ตรงไหน ต้องละตรงนั้น
[23:42] ธัมมวรรค หมวดว่าด้วยธรรม | [88] เจโตวิมุตติ / ปัญญาวิมุตติ
[27:04] [89] ความเพียร / ความไม่ฟุ้งซ่าน | [90] นาม/รูป
[29:47] [91] วิชชา/วิมุตติ
[32:58] ตัวอย่าง โพธิราชกุมาร ฉลาดในเรื่องรถ
[36:06] [92] ภวทิฏฐิ / วิภวทิฏฐิ
[41:40] [93] อหิริ / อโนตตัปปะ | [94] หิริ / โอตตัปปะ
[44:16] ละอายต่อการถูกติเตียน
[47:33] [95-96] ความเป็นผู้ว่ายาก / ความมีปาปมิตร | ความเป็นผู้ว่าง่าย / ความมีกัลยาณมิตร
[50:15] [97] ความเป็นผู้ฉลาดในธาตุ / ในมนสิการ
[52:27] [98 ] ความเป็นผู้ฉลาดในอาบัติ / ในการออกจากอาบัติ
อ่าน "ทุติยปัณณาสก์ ๓. สนิมิตตวรรค หมวดว่าด้วยเหตุแห่งบาปอกุศล" พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๒ [ฉบับมหาจุฬาฯ] อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
อ่าน "ทุติยปัณณาสก์ ๔. ธัมมวรรค หมวดว่าด้วยธรรม" พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๒ [ฉบับมหาจุฬาฯ] อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
ฟัง “สัมมาทิฏฐิ”ออกอากาศทาง FM 92.5 เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ.2563