“ผู้ที่ให้ของที่พอใจ ย่อมได้ของที่พอใจ ผู้ให้ของที่เลิศย่อมได้ของที่เลิศ ผู้ที่ให้ของดีย่อมได้ของที่ดี และผู้ให้ของที่ประเสริฐย่อมได้ของที่ประเสริฐ นรชนใดให้ของที่เลิศ ให้ของที่ดีและให้ของที่ประเสริฐ นรชนนั้นจะบังเกิดในที่ใด ๆ ย่อมมีอายุยืน มียศ”
“ท่านคฤหบดีและท่านคฤหปตานี ถ้าภริยาสามีหวังว่าจะได้พบกันทั้งในชาตินี้และชาติหน้าไซร้ ทั้งคู่พึงเป็นผู้มีศรัทธาเสมอกัน มีศีลเสมอกัน มีจาคะเสมอกัน และมีปัญญาเสมอกันเถิด ก็จะได้พบกันทั้งในชาตินี้และชาติหน้า”
อุคคคฤหบดี อุบาสกผู้เลิศทางถวายโภชนะที่น่าชอบใจ
ได้ตั้งความปรารถนาความเป็นเลิศไว้ในสมัยพระพุทธเจ้าปทุมุตตระ ในชาติล่าสุดเกิดเป็นเศรษฐีเมืองเวสาลี ได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าครั้งแรกก็บรรลุโสดาปัตติผลและบรรลุพระอนาคามีในการฟังธรรมครั้งต่อมา อุคคคฤหบดีจะจัดตั้งอาสนะไว้ 500 ที่ เพื่อให้พระภิกษุมาฉันในเรือนเป็นประจำวัน พระพุทธเจ้าได้ยกย่องว่าเป็นเลิศกว่าอุบาสกผู้ถวายโภชนะที่น่าชอบใจ อีกทั้งตรัสยกย่องอุคคอุบาสกให้ภิกษุทั้งหลายฟังว่าเป็นผู้ประกอบด้วยธรรมที่น่าอัศจรรย์อันไม่เคยมีมา 8ประการ ได้ถวายของชอบใจก่อนตายได้แก่ อาหารอย่างดี ผ้าอย่างดี และเตียงไม้จันทน์ ตายแล้วได้ไปเกิดเป็นพรหมชั้นสุทธาวาส
อุคคตคฤหบดี ชาวหัตถีคามเลิศกว่าอุบาสกสาวกผู้อุปฐากพระสงฆ์
ได้ตั้งความปรารถนาความเป็นเลิศไว้ในสมัยพระพุทธเจ้าปทุมุตตระ ในชาติล่าสุดในสกุลเศรษฐีบ้านหัตถีคาม ครั้งหนึ่งอุคคตเศรษฐีเมาน้ำเมาอยู 7 วัน ครั้นเมื่อเห็นพระพุทธเจ้าก็เกิดหิริโอตตัปปะ เข้าไปฟังธรรมแล้วก็เห็นแจ้งในมรรคผล อุคคตเศรษฐีแม้ว่าจะทราบว่าภิกษุรูปใดมีอภิญญา รูปใดมีศีล รูปใดทุศีลก็ตาม ก็ถวายไทยธรรมด้วยจิตสม่ำเสมอทีเดียว พระพุทธเจ้าทรงยกย่องให้เป็นเอตทัคคะเป็นเลิศกว่าอุบาสกผู้เป็นอุปฐากพระสงฆ์
สูรอัมพัฏฐะ อุบาสกผู้เลิศด้านเลื่อมใสอย่างแน่นแฟ้น
ได้ตั้งความปรารถนาความเป็นเลิศไว้ในสมัยพระพุทธเจ้าปทุมุตตระ ในชาติล่าสุดเกิดในตระกูลเศรษฐี เป็นอุปฐากของอัญญเดียรถีย์ เมื่อมีโอกาสได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าครั้งแรกจบก็ดำรงอยู่ในโสดาบัน เมื่อมีมารมาทดสอบด้วยรูปลักษณะที่เหมือนพระพุทธเจ้าแล้วกล่าวผิดจากธรรมก็ไม่หวั่นไหวในศรัทธา พระพุทธเจ้าจึงได้ยกย่องให้เป็นเอคตทัคคะเป็นผู้เลิศกว่าอุบาสกผู้เลื่อมใสไม่หวั่นไหว
ชีวกโกมารภัจจ์ อุบาสกผู้เลิศทางเลื่อมใสในบุคคล
ได้ตั้งความปรารถนาความเป็นเลิศไว้ในสมัยพระพุทธเจ้าปทุมุตตระ ในชาติล่าสุดเกิดในท้องของหญิงโสเภณีเมื่อคลอดออกมาถูกนำไปทิ้ง เจ้าชายอภัยกุมารได้เกบยไปเลี้ยงไว้ เมื่อโตขึ้นได้หนีไปเรียนวิขาแพทย์จากอาจารย์ทิศาปาโมกข์โดยทำงานแลกกับวิชาความรู้ เมื่อสำเร็จแล้วได้เป็นหมอประจำตัวของพระเจ้าพิมพิสาร นางฝ่ายในและภิกษุสงฆ์ที่มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข อีกทั้งได้ทำการรักษาผู้คนจำนวนมาก เช่นเศรษฐีที่ป่วยเป็นโรคปวดศีรษะ พระเจ้าจัณฑปัชโชตผู้ดุร้ายที่ป่วยเป็นโรคผอมเหลือง เป็นต้น ครั้งเมื่อถวายการบำบัดโทษในกายของพระพุทธเจ้าแล้วได้ขอถวายผ้าสีเวยยกะเป็นผ้าเนื้อดีเลิศและขอให้ทรงมีพุทธานุญาตให้ภิกษุรับคหบดีจีวรและผ้ากัมพลได้ หมอชีวกโกมารภัจจ์เมื่อได้ฟังธรรมเทศนาจากพระพุทธเจ้าก็สำเร็จโสดาบัน ได้เอาสวนมะม่วงสร้างกุฎี มณฑป และวิหารอัมพวันถวายให้พระพุทธเจ้าเป็นที่หลีกเร้น เป็นสถานที่พระเจ้าอชาตศัตรูได้ฟังสามัญญผลสูตรจากพระพุทธองค์ หมอชีวกได้ทำการรักษาแผลที่เกิดจากสะเก็ดหินที่พระเทวทัตทำให้กระเด็นมาถูกเท้าพระพุทธเจ้า ในอีกสมัยหนึ่งทรงแสดงชีวกสูตรว่าด้วยการฉันเนื้อ ลักษณะการฉันอาหารที่ไม่มีโทษ และทรงแสดงโทษของการฆ่าสัตว์ พระพุทธเจ้าได้ยกย่องหมอชีวกโกมารภัจจ์ว่าเป็นเลิศทางเลื่อมใสในบุคคล
นกุลคฤหบดี อุบาสกผู้เลิศทางสนิทสนมคุ้นเคย
ได้ตั้งความปรารถนาความเป็นเลิศไว้ในสมัยพระพุทธเจ้าปทุมุตตระ ในชาติล่าสุดเกิดในสกุลเศรษฐีในพระนครสุงสุมารคีรี แคว้นภัคคะ ครั้นเมื่อได้พบเห็นพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรกก็นึกรักพระองค์ดุจลูก นึกว่าเป็นลูกของตนจริงๆ ทั้งนี้เกิดจากความสัมพันธ์ผูกพันธ์กันมาในอดีตชาติ ซึ่งพระพุทธเจ้าก็ไม่ได้ตรัสว่าอะไร เมื่อได้ทรงแสดงธรรมแก่ทั้งสองคนแล้ว ทั้งสองสามีและภรรยาก็ได้บรรลุโสดาปัตติผล เมื่อยามทั้งสองชราภาพก็ได้พบพระพุทธเจ้าอีกพร้อมทั้งพระสารีบครจึงได้มีโอกาสฟังธรรมอีกครั้ง ได้ทูลถามปัญหาเหตุปัจจัยที่ทำให้ปรินิพานและไม่ปรินิพานอีกด้วย

Time index
[04:08] อุคคคฤหบดีและอุคคตคฤหบดี
[07:10] ธรรม 8 ประการ
[13:13] อุคคคฤหบดีฟังธรรม
[17:30] เรื่องราวของสูรอัมพัฏฐะ
[21:15] มารแปลงร่างเป็นพระพุทธเจ้า
[26:40] เรื่องราวของหมอชีวกโกมารภัจจ์
[33:45] ศึกษาวิชาแพทย์จากอาจารย์ทิศาปาโมกข์
[38:30] การรักษาผู้ป่วยคนแรก
[47:00] การรักษาพระเจ้าจัณฑปโชติ
[51:50] ถ่ายโทษพระพุทธเจ้าด้วยยาดม
[55:45] เรื่องราวของนกุลคฤหบดี